บุกอาณาจักรโลก 10000 ปี เป็นภาพยนตร์อเมริกาแนวแอคชั่น เสี่ยงต่อการเกิดอันตราย ดราม่า แล้วก็แฟนตาซี เป็นหนังที่มีฉากผสมกันอย่างหลากหลายอารมณ์ มีทั้งยังร้ายแรง เศร้าหมอง เศร้าและหาญกล้าฮึกเหิมรวมอยู่ในเรื่องเดียว 10,000 BC ออกฉายเมื่อปี 2008 เป็นหนังที่ควบคุมโดย Roland Emmerich เขียนบทโดย Roland Emmerich และ Harald Kloser แสดงนำโดย Steven Strait (สวมบทดีเลห์), Camilla Belle (แสดงบทบาทเอโม้เล็ต) และจากนั้นก็ Cliff Curtis (สวมบทตำหนิกต่อว่าก)
เป็นหนังเกี่ยวกับเรื่องราวก่อนประวัติศาสตร์ เกิดเหตุราวของ เออวดเล็ต เด็กสาวผู้มีดวงตาสีฟ้า คุณมีชะตาที่จะควรเป็นภรรยาของนักรบผู้กล้า ที่จะแปลงโชคชะตาของชนเผ่า เขาคนนั่นก็คือดีเลห์ บุกอาณาจักรโลก 10000 ปี ผู้ที่ฆ่าเทวดาเพื่อปลดปล่อยเหล่าข้ารับใช้ และก็ช่วยปรับเผ่ายาการ์ลของพวกเขาไม่ต้องหิวโหยอีกต่อไป
เรื่อง ดูหนัง 10000 BC (2008) บุกอาณาจักรโลก 10000 ปี
ท่ามกลางชนเผ่าชาวดอยอันไกลมาก นักล่าวัยหนุ่มน้อย ดีเลห์ (สตีเว่น สเตร็ท) ได้ศึกษาค้นพบปรารถนาที่ศีรษะหัวใจ สาวสวยนามว่า อีอวดเล็ท (ติดอยู่ไม่ลล่า เบลล์) เมื่อบรรดานักสู้ลึกลับบุกเข้ายึดหมู่บ้านของเขารวมทั้งลักพาตัวอีอวดเล็ทไป ดีเลห์ถูกบังคับให้เป็นหัวหน้ากลุ่มนักล่าจำนวนถือมือสำหรับเพื่อการไล่ล่าพวกนักสู้ไปยังสุดขอบโลกเพื่อช่วยเหลือคุณด้วยกำลังขับที่ชะตากรรม เหล่านักสู้จะต้องเผชิญกับเสือเขี้ยวกระบี่ และสัตว์ร้ายสมัยก่อนประวัติศาสตร์
และได้ศึกษาค้นพบอารยธรรมที่หายในตอนสุดท้ายของการเดินทางอันชาญชัยของพวกเขา เคราะห์กรรมที่ท้าทายของพวกเขาขึ้นอยู่กับอาณาจักรที่เหนือจินตนาการซึ่งมีกลุ่มปิรามิดสูงระฟ้าในที่นั้นพวกเขาจำเป็นต้องประมือกับเหล่าเทพมีอำนาจซึ่งทำให้ผู้คนต้องแปลงเป็นบริวารอย่างเหี้ยมโหดอำมหิตโดยมีชาวเผ่ายาการ์ล ชนเผ่าพรานป่าผู้ทรงประสิทธิภาพที่สุดสำหรับเพื่อการล่าสัตว์ พวกเขาจะล่าแมนแนค (ช้างแมมมอธ) ที่จะเดินทางผ่านมาในแต่ละฤดู
ผู้ที่ฆ่าแมนแนคได้ จะได้ถือหอกขาว ได้รับการยกย่องเป็นผู้กล้า และก็ได้เป็นหัวหน้าสำหรับในการล่าในครั้งต่อมาแม้กระนั้นแล้ววันหนึ่งพวกเขาก็เกิดวิกฤตทางอาหาร เมื่อแมนแนคไม่เดินทางผ่านมาทางหุบเขาของพวกเขาเป็นระยะเวลานาน ทำให้คนล่าสัตว์ป่าทั้งหลายเริ่มไม่ค่อยสบายใจ ก็เลยเป็นหน้าที่ของแม่เฒ่าผู้มีอำนาจเยี่ยมที่สุดที่เหลือเพียงอันเดียวในเผ่า ต้องติดต่อขอการปกปักรักษาคุ้มครองปกป้องจากวิญญาณบรรพบุรุษ และพวกเขาก็ได้พบกับเด็กสาวดวงตาสีฟ้าที่จะมาแปลงชะตา
ของชนเผ่ายาการ์ลไม่ให้จำเป็นต้องหิวโหยอีกต่อไป บุกอาณาจักรโลก 10000 ปี จากการเป็นความหวังของคนในเผ่า คุณก็เลยได้รับการตั้งชื่อว่า “เอคุยอวดเล็ต”สำหรับในการล่าหนสุดท้ายตามที่แม่เฒ่าได้คาดการณ์ไว้ ชายผู้กล้าที่ฆ่าแมนแนคได้ จะเป็นชายผู้ที่ได้ครอบครองหอกขาวรวมทั้งเออวดเล็ตด้วย แต่ชนเผ่ายาการ์ลจำเป็นที่จะต้องเผชิญกับภูติผีปีศาจสัตว์สี่ขา มีเพียงชายผู้กล้าผู้ได้เป็นเจ้าของเอโวเล็ตเท่านั้นที่จะสามารถกลับชะตาของชนเผ่าได้
แล้วเรื่องก็เป็นไปตามที่แม่เฒ่าทำนายไว้ เอโวเล็ตรวมทั้งคนอื่นๆในเผ่าถูกอสุรกายจับตัวไป ทำให้ดีเลห์ชายผู้ได้ครอบครองเออวดเล็ต จะต้องออกติดตามชิงตัวคุณกลับคืนมา ดีเลห์ได้สะสมชนเผ่าต่างๆเพื่อต่อสู้กับผู้ที่อ้างตนว่าเป็นเทพเทวดารวมทั้งได้จับกุมตัวคนในเผ่าต่างๆไปเป็นขี้ครอกมากมาย ถึงแม้ว่าท้ายที่สุดแล้วดีเลห์ก็สามารถโค่นอำนาจเทพเจ้าได้ ทำให้ผู้ที่ถูกจับเป็นขี้ครอกยืนขึ้นสู้ และเอาชนะคนของเทวดาได้
จากหนังประเด็นนี้ที่เกิดเรื่องราวการเสี่ยงอันตรายของดีเลห์ ชายผู้กล้าที่ได้รับการชื่นชมให้เป็นหัวหน้าเผ่า ได้ออกติดตามช่วยเหลือเอคุยโวเล็ตและจากนั้นก็คนในเผ่าที่ถูกจับตัวไป ทำให้หนังหัวข้อนี้มีความสนุกตรงเหตุต่างๆที่ดีเลห์และเพื่อนๆของเขาจำเป็นต้องพบเห็น มีฉากการต่อสู้ รวมถึงถูกไล่ล่าจากสัตว์ในครั้งพระเจ้าเหา ทำให้ดูแล้วได้รับทั้งความร่าเริงตื่นเต้น ความมันรวมทั้งเพลิดเพลินใจแต่ที่เด็ดสุดที่ผมถูกอกถูกใจเยอะมาก
แล้วก็ทำให้หนังเรื่องนี้น่าดูเพิ่มมากขึ้นเป็นหนังเรื่องได้ปกปิดแนวคิดดีๆถือตัวเป็นต้นว่าความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวของชนเผ่าต่างๆที่ร่วมมือกันจนกระทั่งสามารถเอาชนะศัตรูได้ รวมถึงได้แฝงแนวคิดด้านจิตวิทยาเรื่องความกลัวเอาไว้ โดยเห็นได้จากข้ารับใช้ที่ถูกจับตัวไปทรมาทรกรรมเมื่อถูกบังคับให้แสดงความรพต่อผู้ที่อ้างตัวว่าเป็นเทพเทวดาครั้งใดก็ตามได้ยินเสียงเป่าเขาสัตว์ถึงในนาทีที่พวกเขายืนขึ้นมาต้านทานทวยเทพเทวดา
แต่เมื่อได้ยินเสียงแตรพวกเขายังก้มหน้าแสดงความเคารพนับถือและยอมศิโรราบแก่เทพดา และแม้แต่แมนแนค ช้างแมมมอธตัวใหญ่ ที่ถูกตีมานานจนกระทั่งหมดความรุนแรง ถึงถูกปลดโซ่และจากนั้นก็ยังไม่กล้าที่จะสู้กับคนตัวเล็กๆทำให้สะท้อนถึงจิตใจของคนเราที่ทำอะไรเดิมๆนานๆจนกระทั่งเป็นความเคยชิน รวมทั้งหมดไฟก็เลยยากที่จะยืนขึ้นมาทำของใหม่ๆถึงแม้สิ่งนั้นจะทำให้มีชีวิตที่ดีมากยิ่งขึ้นกว่าเดิมก็ตาม
รีวิว ดูหนัง ออนไลน์ 10000 BC เต็มเรื่อง
หนังเสี่ยงต่อการเกิดอันตรายย้อนยุคนะครับ เรื่องราวสรุปย่อเป็น ผู้แสดงนำชาย (Steven Strait) แลเห็นนางเอก (Camilla Belle) และก็มิตรสหายร่วมชนเผ่าโดนพวกบูชาทวยเทพอันทรงพลังจับไปซึ่งๆหน้า เขาเลยมุ่งมั่นจะเดินทางไปเตรียมการกับพวกชนเผ่าเทพเจ้านั้นซะ ระหว่างการเดินทางเขาก็ต้องเจอกับเสื้อเขี้ยวกระบี่ สัตว์ร้ายรวมทั้งคนป่าเถื่อน รวมถึงชนเผ่าที่กำลังรอใครซักคนมาชวนพวกเขาให้ยืนขึ้นต้านกับชนเผ่าเทวดาที่มัวแต่ข่มเหงรังแกและจากนั้นก็จับคนไปเป็นคนใช้
สมัยเข้าโรงผมก็ไม่ได้พึงพอใจจำนวนหลายชิ้นครับผม ดูไปอย่างนั้นๆซึ่งตัวหนังก็เป็นไปตามคาด มันไม่ได้มีอะไรแปลกใหม่ล้นหลาม แนวเดิมๆดังเช่นตัวเอกที่เป็นบุคคลแกล้วกล้า ซ้ำยังมีตำนานที่เจ้าแม่ประจำเผ่ามาบอกอีกว่าเขาจะเป็นคนสำคัญในภายหน้า รวมทั้งเดินทางไปปราบพวกมิจฉาชีพ รวมทั้งจบลงอย่างมีความสุข แหม แฮ้ปปี้ๆรับว่าเพิกเฉยกับหนังจนกระทั่งไม่เคยรู้จะเขียนอะไร ความระทึกใจตื่นเต้นไม่ประสงค์จะปรากกฏครับผม
ดูแล้วมันคิดไปถึง Pathfinder กับ Apocalypto มากกว่า บุกอาณาจักรโลก 10000 ปี ซึ่งสองเรื่องที่ว่าก็ยังมีอะไรน่าสนใจกว่าเยอะ อย่างเรื่องแรกมันยังขายสไตล์ภาพบ้าง ฉากสู้กันยังเพียงพอมีลุ้น 10000 BC ส่วน Apocalypto ก็เข้มข้น เหมือนจริงเปรียบเสมือนพาเราหลุดเข้าไปในโลกของชนเผ่านั้นจริงๆ แม้กระนั้นเรื่องนี้มันสูตรฮอลลีวู้ดขอรับ ซึ่งจริงๆถ้าทำให้มันบันเทิงใจ ตื่นเต้น ตื่นเต้นก็น่าจะดี แม้ว่าดูๆแล้วมันก็บางส่วน หรือพวกสัตว์โบราณที่แลเห็นประชาสัมพันธ์มากมายก็มีแค่นิดเดียวเอง
ช่วงท้ายเมื่อต้องรบกับพวกชนเผ่าเทพเจ้าก็จบลงอย่างง่ายๆไม่มีอะไรให้ตื่นเต้นจริงๆก็เฉยๆกับหนังน่ะครับผม ดูไปแล้วผมชื่นชอบ Apocalypto กว่าเยอะ ทั้งในด้านความสมจริงรวมทั้งความสนุกสนานตื่นเต้น ไปๆมาๆผมว่าบรรยากาศในหัวข้อนี้มันเสมือน Stargate ผลงานควบคุมแจ้งเกิดของ Roland Emmerich คนทำหนังเรื่องนี้น่ะล่ะ ค่อนข้างจะราวกับ แม้กระนั้นความสนุกสนานร่าเริงตื่นเต้นคนละอย่างกันเลยจริงๆ
จุดที่ผมชอบกลับเปิดโอกาสจุดสำคัญที่เล่นกับ “ความเชื่อใจ” ของคน
พวกว่าพวกชนเผ่าเทพเจ้ามันใช้จิตวิทยาเก่งจำนวนมาก ตั้งแต่เสื้อผ้าที่ทำให้คนธรรมดากลายเป็นอสุรกายได้ หรือการตกแต่งเรือขนส่งของพวกมันให้อย่างกับนกยักษ์ เห็นด้วยว่ากลุ่มนี้เก่งมากไม่น้อยเลยทีเดียวครับ ที่เล่นกับความกลัวของคน ทำให้ใครๆไม่กล้าต้านทาน เนื่องจากว่ากลัวอำนาจเทวดาที่มองไม่เห็น หากว่ามันเป็นเพียงแค่การใช้จิตวิทยาเข้าเอาชนะศัตรูเท่านั้นเอง
ดูย้อนมาเวลานี้ คนประเทศไทยไม่น้อยเลยทีเดียวก็ยังตกอยู่ในกรอบ “ความเชื่อ” ที่ไม่ก่อคุณค่าอะไร นอกจากทำให้โง่ เสียเงินเสียทองหรือไม่ก็เสียความสุขสำราญ ผมไม่ได้เอ่ยถึงเรื่องการเมืองขอรับ อย่าลากเข้าไปเกี่ยวเชียวล่ะแม้กระนั้นผมซึ่งก็คือเรื่องไสยศาสตร์การดูดวงทรงเจ้า ที่บางเจ้าก็อาจเป็นของจริง แต่เยอะมากๆเจ้าไหนที่ชื่นชอบทักแม้ว่าเรื่องร้ายๆแล้วอื้ออึงก็ให้เราสะเดาะเคราะห์ เสียเงินเสียทองให้เขาน่ะ ถูกใจเป็นพวกที่ใช้ความเลื่อมใสศรัทธามาหากินเสียมากกว่า
ในเรื่องก็ทำให้ผู้ชมพอใจได้ไม่น้อย ช่วงท้ายที่ผู้แสดงนำชายเดินออกโรงไปฝ่ากับบุคคลที่ถูกทำภาพลักษณ์จนกระทั่งแปลงเป็นเหล่าเทวดา แต่ตรงกันข้ามก็ไม่ใช่มนุษย์ประหลาดไหน เป็นเพียงคนธรรมดาเดินดิน แต่ถูกแต่งเสริมเติมเรื่องจนกระทั่งเป็นเทพเจ้าสรุปว่าผมประทับใจ 10000 BC ที่ศีรษะข้อการสอนไม่ให้คนโง่หรือเชื่ออะไรง่ายๆและไม่น่าจะให้ความวางใจมาขวางความฝันของเราคนที่เชื่อในตนเอง ไม่ระรานบุคคลอื่น เอาแต่ได้ความสำเร็จเป็นการชดเชย
ตามใจขอรับ ความสนุกของหนังไม่เยอะมากแค่ไหน แต่บ่อยมาเรียงๆไม่มองดูก็ไม่เสียหาย Effect ไม่เลวแต่ก็ไม่ได้น่าสรรเสริญถึงกับขนาดห้ามพลาด นักแสดงก็ไม่เลว ถึงแม้ว่านางเอกที่ผมชื่นมื่นอย่าง Belle บทน้อยไปหน่อย เสียดายจัง ส่วนผู้แสดงนำชาย รับสารภาพเลยครับว่าดูสองรอบยังจำหน้าแกไม่ได้เลย แต่ว่าอย่างต่ำก็พอเพียงไหว ไม่ถ่วงหนัง
รีวิวหนัง “The Creator” การรบคนปะทะ AI ไซไฟหัวข้อคุ้น กับวิชวลเมืองไทยที่แปลกล้ำ
ถึงแม้ก่อนหน้านี้ มึงเร็ท เอ็ดเวิร์ดส์ (Gareth Edwards) จะเป็นผู้กำกับสายหนังไซไฟที่ดูแลหนังมาเพียง 4 เรื่องเท่านั้น แต่ 3 เรื่อง ไล่ตั้งแต่เรื่องแรก ‘Monsters’ (2010) งานไซไฟสยองขวัญทุนต่ำ 500,000 เหรียญ ก่อนโจนมาจับแฟรนไชส์ไซไฟฟอร์มยักษ์อีกทั้ง ‘Godzilla’ (2014) รวมทั้งผลงานที่ลือลั่นก็น่าจะหนีไม่พ้น ‘Rogue One: A Star Wars Story’ (2016) ที่ได้รับคำชื่นชมอย่างเหลือหลาย ปีนี้ เอ็ดเวิร์ดส์ขอกลับมาจับงานไซไฟออริจินัล G2G999 ของตัวเองอีกครั้งใน ‘The Creator’
ตัวหนังได้ คริส ไวซ์ (Chris Weitz) คนเขียนบทร่วม และก็ เกร็ก เฟรเซอร์ (Greig Fraser) ผู้กำกับรูปภาพที่เอามาจาก ‘Rogue One’ มาทำงานร่วมกันอีกครั้ง ที่น่าสนใจเป็น การใช้โลเกชันสถานที่เที่ยว แล้วก็สถานที่สำคัญในทวีปเอเชีย โดยเฉพาะในประเทศไทยกว่า 40 สถานที่จาก 16 จังหวัด ใน 212 ฉาก นอกเหนือจากนี้ก็ยังมีคนประเทศไทยไปร่วมจัดการด้าน Production Service และจากนั้นก็เป็นตัวละครมี น่าจะเป็นหนังฝรั่งที่มีชื่อชาวไทยในเครดิตสูงที่สุดเรื่องหนึ่งแล้วล่ะ
หนังเล่าในอนาคตในปี 2070 ประเทศอเมริกาพบเจอเหตุระเบิดนิวเคลียร์รุกรานลอสแองเจลิส คาดว่าน่าจะเป็นฝีมือของ AI รัฐบาลก็เลยรีบเริ่มการสู้รบเผาผลาญ AI ให้หมดเกลี้ยง โจชัว (จอห์น เดวิด วอชิงตัน – John David Washington) อดีตสมัยเจ้าหน้าที่รัฐหน่วยรบพิเศษผู้สูญเสียภรรยา มายา (Gemma Chan – เจมมา ระเบียง)
ถูกเลือกให้กลับมารับหน้าที่ตามล่า เนอร์มาตา (Nirmata) ผู้สรรสร้างที่คาดว่าเป็นผู้อยู่เบื้องหลัง AI ทั้งหลายทั้งมวล บุกอาณาจักรโลก 10000 ปี ที่อาศัยอยู่ใน ‘นิวทวีปเอเชีย’ ดินแดนที่ยังคงมีคนรวมทั้ง AI ดำเนินชีวิตร่วมกันอย่างปกติสุข แม้ว่าแล้วเขากลับต้องมาพบว่า อาวุธทรงอำนาจที่กองทัพหมายหัว เปลี่ยนไปก็แค่ AI เด็กน้อยที่มีชื่อว่า แอลฟี (เมเดลีน ยูนะ วอยเลส – Madeleine Yuna Voyles)