วิเคราะห์บอล เชลซี VS นิวคาสเซิ่ล
สภาพความพร้อม เชลซี
ฟอร์มล่าสุด เชลซี เปิดบ้านอัดทีมบ๊วย เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด 2-0 ในศึกพรีเมียร์ลีก หยุดสถิติที่ก่อนหน้านี้แพ้มา 2 นัดรวดต่อ แมนยู และ เอฟเวอร์ตัน ส่วนผลงานในศึกคาราบาว คัพ ทีมสิงห์บลูส์ปราบ แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส 2-0 ในรอบที่ผ่านมา จนเข้ามาปะทะกับ นิวคาสเซิ่ล ในรอบนี้
ส่วนขุมกำลังของเชลซียังเต็มไปด้วยผู้เล่นบาดเจ็บเช่นเดิม โดยเฉพาะตัวหลักอย่าง เวสลีย์ โฟฟาน่า, เบน ชิลเวลล์, รีซ เจมส์, มาร์ค กูกูเรย่า, โรเมโอ ลาเวีย รวมถึงนายทวารมือหนึ่ง โรเบิร์ต ซานเชซ ทำให้ ยอร์เย เปโตรวิช ผู้รักษาประตูมือสองจะได้ลงเฝ้าเสาแทนต่อไป
ขณะที่ตำแหน่งอื่นคาดว่ากุนซือเมาริซิโอ โปเช็ตติโน เตรียมใช้ผู้เล่นชุดผสมลงสนาม และที่ต้องจับตาคือ คริสโตเฟอร์ เอ็นคุนคู ดาวยิงวัย 26 ปี อาจจะได้ลงประเดิมสนามนัดแรกให้กับเชลซี หลังจากเจ้าตัวย้ายมาจากแอร์เบ ไลป์ซิก เมื่อช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา ก่อนจะบาดเจ็บจนต้องพักยาวมาตั้งแต่ก่อนเปิดฤดูกาล
สภาพความพร้อม นิวคาสเซิ่ล
หลังจากฟอร์มเป๋แพ้มา 3 นัดรวดก่อนหน้านี้ นิวคาสเซิลกลับมาคืนฟอร์มในนัดล่าสุด ซึ่งถล่ม ฟูแล่ม 3-0 ขณะทีฟอร์มในรายการนี้ ทัพสาลิกาดงโชว์ฟอร์มปราบ 2 ทีมใหญ่จากเมืองแมนเชสเตอร์คือ โดยเปิดบ้านเฉือนแมนซิตี้ 1-0 และบุกไปถล่ม แมนยู 3-0 จนเข้ามาถึงรอบ 8 ทีมสุดท้ายได้สำเร็จ
ส่วนความพร้อมของนิวคาสเซิ่ล มีปัญหาผู้เล่นบาดเจ็บกันระนาว อาทิเช่น นิค โป๊ป, ฮาร์วีย์ บาร์นส์, แมตต์ ทาร์เกตต์, โจ วิลล็อค, เจค็อบ เมอร์ฟีย์, เอลเลียต แอนเดอร์สัน นอกจากนี้ต้องรอเช็กอาการ คีแรน ทริปเปียร์, โชลินตอน, ฟาเบียน แชร์ และอเล็กซานเดอร์ อิซัค ขณะที่ ลูอิส ฮอลล์ ก็หมดสิทธิลงสนามเนื่องจากติดสัญญายืมตัวมาจากเชลซี
อย่างไรก็ตาม กุนซือเอ็ดดี้ ฮาว พอจะมีข่าวดีอยู่บ้าง เมื่อ สเวน บ็อตมัน เซนเตอร์แบ็กคนสำคัญหายเจ็บกลับมาพร้อมลงช่วยทีมอีกครั้ง โดยเตรียมผนึกกำลังร่วมกับแกนหลักที่เหลือ ได้แก่ จามาล ลาสเซลล์, บรูโน่ กีมาไรส์, แอนโธนี กอร์ดอน, มิเกล อัลไมรอน และ คัลลัม วิลสัน
รายชื่อผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
เชลซี : ยอร์เย เปโตรวิช (GK), มาโล กัสโต้, อักเซล ดิซาซี่, เบอนัวต์ บาเดียชิล, เอียน แมตเซน, มอยเซส ไกเซโด้, เอ็นโซ แฟร์นันเดซ, โคล พาลเมอร์, คอเนอร์ กัลลาเกอร์, ราฮีม สเตอร์ลิง, อาร์มันโด โบรยา
นิวคาสเซิ่ล : มาร์ติน ดูบราฟก้า (GK), เอมิล คราฟธ์, สเวน บ็อตมัน, จามาล ลาสเซลล์, แดน เบิร์น, บรูโน กีมาไรส์, ลูอิส ไมลีย์, ชอน ลองสตาฟฟ์, แมตต์ ริทชี่, คัลลัม วิลสัน, มิเกล อัลมิรอน
ฟอร์มการเล่น 5 นัดหลังสุด
เชลซี
- 17/12/23 ชนะ เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด 2-0 (เหย้า) พรีเมียร์ลีก
- 10/12/23 ชนะ เอฟเวอร์ตัน 2-0 (เยือน) พรีเมียร์ลีก
- 06/12/23 แพ้ แมนฯ ยูไนเต็ด 1-2 (เยือน) พรีเมียร์ลีก
- 03/12/23 ชนะ ไบรท์ตัน 3-2 (เหย้า) พรีเมียร์ลีก
- 25/11/23 แพ้ นิวคาสเซิ่ล 1-4 (เยือน) พรีเมียร์ลีก
นิวคาสเซิ่ล
- 17/12/23 ชนะ ฟูแล่ม 3-0 (เหย้า) พรีเมียร์ลีก
- 13/12/23 แพ้ เอซี มิลาน 1-2 (เหย้า) ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก
- 10/12/23 แพ้ สเปอร์ส 1-4 (เยือน) พรีเมียร์ลีก
- 07/12/23 แพ้ เอฟเวอร์ตัน 0-3 (เยือน) พรีเมียร์ลีก
- 02/12/23 ชนะ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 1-0 (เหย้า) พรีเมียร์ลีก
ผลงานการพบกัน 5 นัดหลังสุด
- 25/11/23 นิวคาสเซิ่ล 4-1 เชลซี (พรีเมียร์ลีก)
- 27/07/23 เชลซี 1-1 นิวคาสเซิ่ล (พรีเมียร์ลีก ซัมเมอร์ซีรี่ส์)
- 28/05/23 เชลซี 1-1 นิวคาสเซิ่ล (พรีเมียร์ลีก)
- 13/11/22 นิวคาสเซิ่ล 1-0 เชลซี (พรีเมียร์ลีก)
- 13/03/22 เชลซี 1-0 นิวคาสเซิ่ล (พรีเมียร์ลีก)
ทรรศนะ เชลซี VS นิวคาสเซิ่ล
ทั้งสองทีมต่างเผชิญปัญหานักเตะบาดเจ็บเต็มทีม นั่นทำให้ต่างฝ่ายต่างไม่มีทางเลือกมากนัก และเตรียมโรเตชั่นใช้ผู้เล่นชุดผสมลงสนามบู๊กันในเกมนี้ ส่วนเรื่องฟอร์มการเล่นในช่วงหลังของทั้งคู่ก็ถือว่าใกล้เคียงกัน แต่สิ่งหนึ่งที่เป็นข้อได้เปรียบ-เสียเปรียบชัดเจนคือ เกมนี้ เชลซี จะได้เล่นในสแตมฟอร์ด บริดจ์ของตัวเอง ซึ่งช่วงหลังทีมสิงห์บลูส์โชว์ฟอร์มในบ้านได้ค่อนข้างดี
ผิดกับ นิวคาสเซิล ที่ฟอร์มนอกบ้านย่ำแย่ โดยแพ้ถึง 4 และเสมอ 1 จากเกมเยือน 5 นัดหลังสุดในทุกรายการ สุดท้ายจึงเชื่อว่าน่าจะเป็นขุนพล “สิงโตน้ำเงินคราม” ที่อาศัยความได้เปรียบในฐานะเจ้าถิ่น เบียดเอาชนะและตีตั๋วผ่านเข้าสู่รอบตัดเชือกได้สำเร็จ