หนังสืบสวน สร้าง จาก เรื่องจริง
หนังสืบสวน สร้าง จาก เรื่องจริง Along With The Gods : The Two Worlds (2017) หนังแนวแอคชั่นแฟนตาซี ถูกหยิบมาสร้างขึ้นมาจากเว็บไซต์ตูนสุดฮิตของเกาหลีที่ติดอันดับมีผู้อ่านจำนวนเยอะที่สุด เอ่ยถึงเรื่องราวเกี่ยวกับขุมนรกและสวรรค์ จากการผจญภัยของ ‘คิม จาฮง’
รับบทโดย ชา แทฮยอน ชายหนุ่มนักดับเพลิงที่ช่วยชีวิตคนมาแล้วนับไม่ถ้วน และตัวเองจำเป็นจะต้องเสียชีวิตอย่างกระทันหันเวลาทำหน้าที่ หนังสืบสวน สร้าง จาก เรื่องจริง เขาจึงถูกเทพผู้พิทักษ์ทั้ง 3 มาเชิญตัวไปยังปรโลก และถูกแปะป้ายว่าเป็น ‘วิญญาณคนดี’ เพื่อที่จะฝ่าด่านขุมนรกทั้ง 7 แสดงให้เห็นความจริงความดีของตนเองให้ได้กลับมากำเนิดใหม่อีกสักครั้งใน 49 วัน
เรื่องนี้ต้องพูดว่าได้แง่คิดดีมาก ๆ สำหรับเพื่อการนำเรื่องของความเชื่อเรื่องเกี่ยวกับนรกและสวรรค์มาเล่า มีการออกแบบขุมนรกทั้ง 7 ด่านให้สมกับชีวิตจริง ซึ่งขุมนรกที่แต่ละคนจำเป็นจะต้องพบก็จะเรียงลำดับไปตามบาปกรรมที่ได้ทำไว้ช่วงยังมีชีวิตอยู่ จากบางส่วนไปหามาก ซึ่งเล่าผ่านสถานะการณ์ของตัวเอกที่เป็นนักดับเพลิง ได้ชื่อว่าเป็นวิญญาณคนดี ที่ทำดีมาตลอดทั้งชีวิตก่อนตาย แต่ก็มีปมชีวิตที่จำเป็นที่จะต้องฝ่าด่านนรกทั้ง 7 ด้วยเหมือนกัน ท่านเทพผู้พิทักษ์ทั้ง 3 ก็น่ารัก มีมุกตลกขบขัน เบิกบาน
แต่ที่ถูกใจคือความตื่นตาตื่นใจกับการประสบพบเห็นขุมนรกแต่ละด่านนี่แหละ หนังสืบสวน สร้าง จาก เรื่องจริง ถูกใจมาก ๆ (ผู้ผลิตกลุ่มดีไซน์ใช้เวลายาวนานถึง 6 ปีสำหรับการสร้างนรกทั้ง 7 ขุม) บวกกับความซึ้งในความเกี่ยวพันของผู้แสดง ที่รับรองว่าควรมีน้ำตาซึมแน่ๆ หัวข้อนี้สิ่งจูงใจแรกก็เข้าไปดูเนื่องด้วยคยองซูอีกแล้ว (ฝากเชียร์คุณสิบตรีวอนด้วยนะคะ) และเรื่องนี้หยิบเกิดเรื่องที่กำหนดเป้าหมายจะสร้างเห็นการณ์หนังเกาหลีฟีเวอร์
ต่อจากเรื่อง Train to Busan (สปอยว่าส่วนท้ายเรื่องหลังเครดิตแอบมีนักแสดงจาก Train to Busan เข้ามาแจมด้วย) ซึ่งก็ได้เช่นกันรับเสียงตอบรับที่ดีมาก ๆ สร้างเห็นได้ชัดการณ์และค่าแรงถล่มถลายไม่แพ้กัน และผู้จัดก็ตั้งใจจริงสร้างภาค 2 ต่อกันเลย ใน Along with the Gods : The Last 49 Days ซึ่งจะเข้าฉายในฤชมร้อนปีหน้า
Seabiscuit (2003)
ตอนที่เรากำลังท้อแท้กับเรื่องอะไรสักอย่าง บางเวลาการได้ชมหนังแนวให้ความเข้มแข็งพร้อมที่จะต่อสู้ชีวิตที่ผลิตขึ้นจากเรื่องจริงมันก็ช่วยปลุกความมุ่งมาดและกลบความท้อแท้ของเราไปได้ในณ เวลาเวลาหนึ่ง คุณค่าเพียงเล็กน้อยเช่นนี้ก็มีดีพอจะให้คุณหยิบหนังดี ๆ สักเรื่องตัวอย่างเช่น Seabiscuit มาดูกันครับ
ชื่อหนัง Seabiscuit มาจากชื่อม้าแข่งชื่อเรื่องราวแห่งยุค 1930 ซึ่งเป็นม้าที่ได้รับการยกย่องว่ายอดเยี่ยมในตำยาวนานของสหรัฐอเมริกา มันคือม้าที่เป็น “ความมุ่งมาด” ของผู้คนในยุคนั้น ม้าตัวเล็กมีตำหนิชมรูปพรรณแล้วไม่มีผู้ใดต้องการฝึกหัดเพื่อแข่งขัน ถูกเลี้ยงให้รู้จักแพ้
ถูกฝึกฝนให้เป็นคู่ต่อสู้ของม้าที่จะใช้แข่งขัน แต่มันกลับกลับกลายเป็นม้าที่ชนะเกือบจะทุกสนามแข่งในยุคนั้น ที่สำคัญกว่านั้นมันถูกซื้อมาฝึกฝนลงชิงชัยโดยคนที่มีรูปพรรณไม่ต่างจากตัวมันเลย คือเป็น loser สิ้นหวังกำลังดิ้นรนหา “จังหวะ” ที่จะมีที่ยืนเหมือนเช่นคนอื่นๆ ๆ ทั้งม้าและคนเหล่านี้ผสมผสานรักษาแผลซึ่งกันและกันก่อนจะร่วมกันสร้างการบรรลุผลและแรงกระตุ้นให้ผู้คนอีกเพียบเลย
ก่อนที่จะกล่าวถึงตัว “story” ของ Seabiscuit ผมอาจจะจำเป็นจะต้องขอพูดถึงภาพรวมด้านต่าง ๆ ของหนังก่อนสักนิด หนังเปิดตัวด้วยการบากบั่นปูพื้นผู้แสดงหลักทั้ง 3 คน เป็นต้นว่า ‘ชาร์ลส์ โฮเวิร์ด’ (Jeff Bridges) สมัยเก่าช่างรวมตัวกันส่วนประกอบรถยนต์ในโรงงาน โดนไล่ออกก่อนจะที่ประสบความสำเร็จจากวิธีการทำธุรกิจผลิตรถยนต์ ชีวิตเขาเหมือนจะไปได้ด้วยดีกระทั่งเขาสูญเสียลูกชาย, ‘ทอม สมิธ’ (Chris Cooper) ครูฝึกหัดม้าที่มีสมรรถนะแต่ไม่มีงานทำ, ‘เรด พอลลาร์ด’ (Tobey Maguire)
จ๊อกกี้ม้าที่ถูกครอบครัวทิ้งให้ไปอยู่กับคอกม้าตั้งแต่วัยรุ่น เร่ร่อนหางานหาเงินกระทั่งตาสูญเสียการมองเห็นหนึ่งข้าง ข้อขัดแย้งของหนังที่จะตีปัญหาการปูพื้นนักแสดงถือได้ว่ายากพอเหมาะสม เหตุเพราะประเด็นของหนังที่อยู่เรื่องราวของม้าชิงชัย Seabiscuit แต่ถึงอย่างนั้นก็มีความหมายที่ควรต้องปูพื้นให้แสดงตัวถึงยุคเก่าของแต่ละผู้แสดง เนื่องจากว่ามิเช่นนั้นแล้วมันจะไม่สามารถสร้างจุดพีคในช่วงท้าย ด้วยเหตุดังกล่าวการที่เวลาต้นของหนังอุตสาหะเร่งรัดให้ปรากฏถึงทั้งสามตัวละครคร่าว ๆ แม้ว่าจะลงน้ำหนักไม่มากและเป็นการบอกเล่าแบบผ่าน ๆ แต่มันก็ช่วยทำให้รูปรวมของหนังมีน้ำหนักที่น่าดึงดูดขึ้นมา
ตอนที่หนังพาพวกเราไปคุ้นเคย Seabiscuit จึงถือได้ว่าเริ่มต้นไปสู่เรื่องราวของหนังเต็มตัว ‘แกรี่ รอสส์’ ผู้กำกับลงมือเขียนบทรูปยนตร์เรื่องนี้ด้วยตัวเองทำให้ผมจะต้องให้เครดิตกับเขาไปเต็ม ๆ เขาทำได้ดีทั้งการกำกับและการเขียนบทเลยครับผม ทั้งขั้นตอนการที่เขาเลือกเฟ้นจะใช้เล่าเรื่องในหลากหลายฉาก ๆ ด้วยภาพเพียงอย่างเดียว การให้ความเอาใจใส่กับ “ช่วงเดินทาง” มากกว่า “เส้นชัย” การสร้างอารมณ์เข้าร่วมกับคนชมในฉากแข่งม้าและฉากสร้างพลังใจทั้งหลากหลาย เป็นหนังที่สามารถดึงผมให้มีอารมณ์ร่วมกับสถานะการณ์ทั้งสุขและทุกข์ของ Seabiscuit เกือบจะตลอดทั้ง 140 นาที
ต่อจากนี้เราจะมาพูดถึง “story” ของม้าตัวนี้กันครับผม จุดเด่นที่จำเป็นต้องดูผู้กำกับคือการให้ความเอาใจใส่กับช่วงเดินทางของม้าตัวนี้ก่อนที่จะประสบความสำเร็จ หนังสืบสวน สร้าง จาก เรื่องจริง เราจะได้ปรากฏทั้งม้าทั้งคนต่างล้มลุกคลุกคลานประสบพบปัญหาและกำลังมองหา “โอกาส” เพื่อจะเปลี่ยนแปลงแปลงร่างเองให้ดีขึ้น ผู้คนในสมัยนั้นต่างก็จะต้องเจอกับผลพวงจากวิกฤติเศรษฐกิจ และเจ้าม้า Seabiscuit ก็เหมือนตัวปลุก “ความคาดหวัง” ในตัวหมู่เขาให้ลุกขึ้นสู้ ให้ทำตามความฝัน ปลุกความฮึกเหิมในใจให้ไม่ยินยอมอ่อนข้อแพ้กับโชคชะตาและปัญหาที่รุมเร้า
แม้ว่าคุณจะทราบปลายทางแล้วผมก็ยังเสนอแนะให้ชมหนังหัวข้อนี้อยู่ดีครับผม เหตุเพราะจุดสำคัญของมันอยู่ที่เหตุการณ์ “ตอนที่เดินทาง” ของม้าตัวนี้ บางครั้งคนพวกเราก็ควรจะเป็น “แรงกระตุ้น” เพื่อต่อพลังชีวิต ผมไม่ได้อยากต้องการให้ท่านเสีย “จังหวะ” ที่จะปลุกพลังใจคุณ ฉะนั้นทดสอบหาสถานะการณ์ของ Seabiscuit มาดูกันนะครับ แล้วคุณอาจจะจะประสบว่ามันควรค่ามากกว่าเป็นแค่หนังหนึ่งเรื่อง
หนังชีวิตจริง netflix หนังที่ถูกจากเรื่องจริงที่ถูกทำมาสร้างภาพยนต์ที่เป็นแรงจูงใจเรื่องที่2 ทีมเงาอัจฉริยะ
เป็นเรื่องที่พูดถึง หมู่ผู้หญิงผิวสีกลุ่มหนึ่ง ที่ต้องการบอกต่อว่า ถึงแม้ว่าตนจะเป็นผิวสี แต่ก็มีสมรรถนะ โดยเรื่งองเริ่มตั้งแต่ต้นที่ Katherine Johnson ดำเนินงานที่ Langley Research Center ในแฮมป์ตัน รัฐเวอร์จิเนียในปี 1961 ร่วมกับเพื่อจะนเข้าร่วมงานของเธอ Mary Jackson และ Dorothy Vaughan
หมวดหมู่เขาทั้งปวงเป็นสตรีแอฟริกันอเมริกัน หน่วยนี้แยกตามเชื้อชาติและเพศ Vivian Mitchell หัวหน้างานผิวขาวมอบหมายให้ Katherine สนับสนุน Space Task Group ของ Al Harrison ด้วยความเชี่ยวชาญของเธอในด้านเรขาเลขวิเคราะห์ เธอกลายเป็นสตรีผิวสีคนแรกในกลุ่ม ผู้นำวิศวกร Paul Stafford ไม่สนใจเป็นพิเศษ
แมรี่ได้รับมอบหมายให้ปฏิบัติการในทีมปกป้องความร้อนของแคปซูลอวกาศ ซึ่งเธอกำหนดข้อบกพร่องสำหรับเพื่อการวางแบบได้โดยทันที แมรี่ได้รับกำลังใจจากผู้นำกลุ่มของเธอ คาร์ล ซีลินสกี้ ผู้รอดชีวิตจากการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวยิว-ยิว แมรี่จึงสมัครตำแหน่งวิศวกรของ NASA อย่างเป็นทางการ
เธอได้รับการพูดเล่าจากมิตเชลล์ว่า ตำแหน่งนี้จำเป็นมากควรจะมีหลักสูตรเติมอีก แมรี่ยื่นคำร้องเพื่อขออนุญาตเข้าเล่าเรียนที่โรงเรียนแฮมป์ตันไฮสคูลที่สว่างโพลน ถึงแม้ว่าสามีของเธอจะโต้เถียงก็ตาม ในการฟ้องร้องต่อศาล เธอชนะผู้พิพากษาในท้องที่ด้วยการยั่วยวนใจความพึงพอใจจากประวัติศาสตร์ ส่งผลให้เธอสามารถเข้าศึกษาในระหว่างค่ำคืนได้
แคเธอรีนประสบกับพ.ต.ท. จิม หน้าจอห์นสันผู้พิทักษ์ดินแดนแอฟริกัน-อเมริกัน ซึ่งทำให้ทราบความสงสัยเกี่ยวกับระดับความสามารถทางเลขของหญิง หลังต่อจากนั้นเขาก็ขอประทานโทษและเริ่มใช้ณ เวลากับแคทเธอรีนและลูกสาวสามคนของเธอ นักบินอวกาศ Mercury 7 มาดีเยี่ยมที่สุด Langley และนักบินอวกาศ John Glenn
ออกไปทักทายสตรี West Area แคเธอรีนสร้างความจับใจให้กับแฮร์ริสันด้วยการแก้สมการทางคณิตศาสตร์ที่ซับซ้อนจากฟอร์มที่เกิดการปกปิด เพราะเหตุว่าการเปิดตัวยูริ กาการินที่บรรลุความสำเร็จของสหรูปโซเวียตได้เพิ่มเติมอีกแรงกดดันสำหรับการส่งนักบินอวกาศชาวอเมริกันขึ้นสู่อวกาศ
NOBODY SLEEPS IN THE WOOD TONIGHT 2
ขอประเดิมเรื่องแรกด้วยภาคต่อของหนังสยองขวัญสัญชาติโปแลนด์สุดราวอย่าง Nobody Sleep in the wood Tonight 2 พึ่งเข้า Netflix สด ๆ ร้อน ๆเลยล่ะจ้ะ เหตุการณ์ความสยองที่ต่อเนื่องกับสถานะการณ์สังหารหมวดหมู่ของแก๊งวัยรุ่นที่พากันไปเที่ยวในป่าเพื่อจะบำบัดอาการติดโซเชียล โดยหลังจากสถานะการณ์ไม่ดีนั้นมีผู้เหลือรอดอยู่เพียงคนเดียว ซึ่งเค้าคนนี้จะมีชีวิตรอดจากเรื่องสยองนี้จนจบเรื่องหรือเปล่า ไปลุ้นกันได้ใน Netflix
Miracle in Cell No. 7
มั่นใจว่าหนังหัวข้อนี้จึงควรอยู่ในลิสต์หนังเรื่องขอความปรานีนิรันดรของหลาย คนแน่ๆ เป็นหนังที่ทำรายรับใน Box Office เกาหลีอย่างถล่มทลายและมีผู้เข้าดูนับสิบล้านครั้ง เกิดเรื่องเช่นเดียวกับของ ยงกู พ่อผู้พิการทางความคิดหรือส่วนที่ใช้ในการคิด ที่ถูกเข้าใจผิดว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการข่มขืนและสังหารเด็ก โดยเขาถูกบังคับให้รับสารรูปภายใต้แรงกดดันของตำรวจ ทำให้เขากลับกลายเป็นผู้ควรต้องหาที่จำเป็นจะต้องไปอยู่รวมกับนักโทษคนอื่นๆ ๆ ในคุกลำดับที่ 7 ที่ขึ้นชื่อเรื่องว่ามีแต่นักโทษคดีโหด ๆ แต่ความจริงแล้วนักโทษแต่ละคนกลับแสดงตัวใจยงกู ก็เลยช่วยให้เยซึง ลูกสาว เข้ามาเหมาะสมที่สุดพ่อในคุกได้ แต่ด้วยวิธีการสุดพิสดาร แม้จะลุ้นแทบจะใจหายเพราะเหตุว่ากลัวจะถูกเจ้าหน้าที่หยิบได้ แต่ก็รอดมาทุกครั้ง แปรเปลี่ยนเป็นความฮาเมื่อเด็กน้อยที่มีความร่าเริงควรต้องมาอยู่รวมกับนักโทษทั้ง 7 คน
THE CURSE OF LA LLORONA
มาต่อกันด้วย “ลาโยโรนา” ผีตัวใหม่ในจักรวาลคอนจูริ่ง โดยเรื่องนี้พี่เจมส์ วาน แกก็ได้เหมือนกันจับยกเหตุการณ์ของสาวร่ำไห้ในตำนานของแม็กซิโกมาถ่ายทอดความสยองขวัญ เหตุการณ์ของผีสาวที่คอยส่งเสียงโหยหวนเรียกหาเด็กๆทุกคืนเพราะว่านึกถึงลูกของตนเอง และเมื่อวันเวลาผ่านไปช้านานเท่าใด เธอก็ยิ่งอยากที่จะได้ใครบางคนมาเป็นผู้แทนลูกของเธอมากเท่านั้น ก็เลยส่งผลให้เธอเปลี่ยนเป็นผีร้ายและใช้แนวทางสุดสยองเพื่อจะเอาลูกผู้อื่นมาเป็นลูกของตน