Gyeongseong Creature 2 (2024) เป็นละครทีวีผ่านสัญญาณตลอดประเทศเกาหลีใต้ที่แสดงนำโดย พัก ซอ-จุน, ฮัน โซ-ฮี, ซู ฮย็อน, คิม แฮ-ซุก, โจ ฮัน-ช็อล และก็วี ฮา-จุน เรื่องราวเกิดขึ้นในช่วงฤดูใบไม้ผลิในปี 1945 เมื่อเมืองกยองซอง ซึ่งเป็นชื่อเก่าเริ่มแรกของนครหลวงโซล อยู่ในสมัยที่มืดมนที่สุด ละครหัวข้อนี้ถ่ายทอดเรื่องราวของมนุษย์ที่ต่อสู้อย่างถึงใจถึงอารมณ์ในเขตแดนระหว่างความเป็นแล้วก็ความตาย มีระบุฉายทางเน็ตฟลิกซ์ในวันที่ 22 ธ.ค. คริสต์ศักราช 2023
สืบต่อตำนาน Gyeongseong Creature 2 ซีรีส์แอ็กชันตื่นเต้น สัตว์สยดสยองกยองซอง ทาง Netflix เมื่อหายนะจากมนุษย์ทดสอบกำลังเกิดขึ้นอีกทีก่อนเดินทางถึงข้อสรุป พระนางแถวหน้า พัคซอจุน รวมทั้ง ฮันโซฮี นำกองทัพระเบิดเกมไล่ล่าล้างเชื้อสายกลางเมืองโซล ท่ามกลางชะตารักอันระทมผ่านสมัยผ่านยุค ถึงเวลาจ่ายบาปที่หามไว้กับการต่อสู้คราวสุดท้ายซึ่งจะต้องแลกเปลี่ยนด้วยชีวิต
Gyeongseong Creature 2 (2024)
ยังคงเกิดเรื่องราวที่น่าติดตามของฤดูกาลแรก โดยจะพาคุณดำตรงสู่โลกแฟนตาซีอันมืดมากที่เกิดขึ้นใน Gyeongseong (โซลในขณะนี้) ในตอนทศวรรษ 1940 ภายใต้การยึดครอบครองของประเทศญี่ปุ่น ฤดูกาล 2 จะเพิ่มความเข้มข้นด้วยการต่อสู้ที่เข้มข้นเพิ่มขึ้นระหว่างสิ่งมีชีวิตลึกลับรวมทั้งผู้แสดงที่ต่อสู้เพื่อเอาชีวิตรอด
ซีรีส์ยังคงประสมประสานเรื่องราวดราม่าอิงประวัติศาสตร์กับความสยองขวัญเหนือธรรมชาติ โดยย้ำที่การต่อสู้ส่วนตัวของตัวละครที่เป็นตัวเอก ผู้แสดงหลักยังคงจำต้องพบเจอกับความเจ็บรวมทั้งความยุ่งยากจากการยึดครอบครอง แล้วก็ในตอนนี้จะต้องพบเจอกับภัยรุกรามที่อันตรายแล้วก็รุนแรงเพิ่มขึ้นในลักษณะของสิ่งมีชีวิตแปลกที่แอบอยู่ในเงามืดของเมือง การกลับมาของนักแสดงอันเป็นสุดที่รักช่วยเพิ่มความมั่นคงทางอารมณ์ให้กับซีรีส์ ในตอนที่นักแสดงใหม่จะเสนอพลวัตใหม่แล้วก็พล็อตที่เปลี่ยน
แสดงนำ
- พัก ซอ-จุน
- ฮัน โซ-ฮี
- ซู ฮย็อน
ภาพยังคงเป็นจุดแข็งอีกทีด้วยสิ่งมีชีวิตที่ได้รับการออกตัวอย่างละเอียดลออ
ซึ่งอีกทั้งน่าสยดสยองรวมทั้งน่าคลั่งไคล้ ฉากยังคงสร้างความตรึงใจด้วยการถ่ายทอดบรรยากาศที่น่าสยดสยองและก็บีบคั้นของช่วงนั้น ในระหว่างที่ฉากแอ็กชั่นยิ่งใหญ่รวมทั้งเข้มข้นขึ้น เต็มไปด้วยความเครียดและก็ระยะเวลาของละครดราม่า ความต่างระหว่างบริบททางประวัติศาสตร์แล้วก็ความสยองขวัญเหนือธรรมชาติสร้างโทนที่เป็นเอกลักษณ์ สร้างสมดุลระหว่างความสมจริงสมจังกับจินตนาการในแบบที่ทำให้ผู้ชมรู้สึกตื่นเต้น
คุณลักษณะเด่นอย่างหนึ่งของ Gyeongseong Creature 2 เป็นการพัฒนาผู้แสดง เมื่อผู้แสดงหลักมีความสลับซับซ้อนเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ความเชื่อมโยงของพวกเขาก็จะลึกซึ้งขึ้น ทำให้เรื่องราวมีอารมณ์ใหม่ๆซีรีส์หัวข้อนี้ไม่ลังเลที่จะตรวจธีมที่ยาก อาทิเช่น ความจงรัก การเสียสละ รวมทั้งผลพวงของการรบต่อธรรมชาติมนุษย์ ทั้งหมดทั้งปวงนี้ในตอนที่ยังคงจังหวะแล้วก็ความระทึกใจของซีรีส์สยองขวัญเกี่ยวกับตัวประหลาด
แต่ ผู้ชมบางบุคคลบางทีอาจมีความรู้สึกว่าเรื่องราวนิดหน่อยในซีซันลำดับที่สองนั้นสลับซับซ้อนเหลือเกิน โดยมีการใส่เรื่องราวมากจนเกินความจำเป็นในครั้งเดียว หากว่าซีรีส์จะรักษาความเคร่งเครียดให้สูงได้ แม้กระนั้นการคั่นเรื่องราวรองรวมทั้งผู้แสดงเสริมเติมอาจก่อให้บางบุคคลรู้สึกอึดอัด โดยยิ่งไปกว่านั้นหากพวกเขาหวังว่าจะเน้นย้ำที่เรื่องราวหลักมากขึ้นเรื่อยๆ
ในทางของจังหวะ ฤดูกาล 2 รีบฉากแอ็กชั่นอปิ้งมากมาย
ด้วยการเผชิญหน้ากับตัวประหลาดบ่อยมากรวมทั้งเข้มข้นขึ้น การเพิ่มขึ้นของฉากแอ็กชั่นนี้แม้ว่าจะน่าตื่นตาตื่นใจ แต่ว่าบางโอกาสก็จำเป็นต้องแลกเปลี่ยนมาด้วยขณะที่สงบเงียบรวมทั้งครุ่นคิดตรึกตรองมากเพิ่มขึ้นของซีรีส์ ซึ่งเป็นคุณลักษณะเด่นของฤดูกาลแรก แม้กระนั้น ผลพวงทางอารมณ์ยังคงหนักแน่น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในระยะเวลาที่การสูญเสียแล้วก็การเสียสละ
โดยรวมแล้ว Gyeongseong Creature เป็นภาคต่อที่น่าระทึกใจของภาคแรก โดยพรีเซ็นท์สิ่งที่แฟนคลับรู้สึกชื่นชอบเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ไม่ว่าจะเป็นบรรยากาศที่มืดมน ความสลับซับซ้อนทางประวัติศาสตร์ แล้วก็ตัวประหลาดที่น่าสยอง ในช่วงเวลาที่ขยายเรื่องราวไปในแนวทางใหม่ที่น่าระทึกใจ เป็นภาคต่อที่สุดยอดสำหรับคนที่ชอบพอการประสมประสานระหว่างความสยองขวัญรวมทั้งประวัติศาสตร์ หากว่าบางบุคคลบางทีอาจต้องการที่จะให้ย้ำที่เรื่องราวหลักมากเพิ่มขึ้นท่ามกลางเรื่องราวที่ขยายออกไป survepi
ในซีซัน 2 ซีรีส์จะพาผู้ชมผ่านระยะเวลาไปสู่ช่วงปัจจุบันนี้ในปี 2024
ที่สืบต่อจากเรื่องราวฉากจบของปี 1945 ในซีซันแรก พร้อมเผยตัวละครลับอย่าง โฮแจ ที่มีบริเวณใบหน้าราวกับ จางแทซัง (พัคซอจุน) พร้อมด้วยการถักต่อความเกี่ยวพันกับ ยุยงนแชอ๊ก (ฮันโซฮี) แล้วก็การเผชิญหน้ากับชะตากรรมที่เกิดขึ้นมาจากสถานะการณ์ในกยองซอง โดยเรื่องราวที่เกิดขึ้นในซีซันใหม่จะห่างจากเรื่องราวในซีซันแรก 78 ปี รวมทั้งมีเสน่ห์ของการเล่าเรื่องที่ไม่เหมือนกันกับในซีซันแรกอย่างสิ้นเชิง
สัตว์สยดสยองกยองซอง (Gyeongseong Creature) ได้รับกระแสตอบรับอย่างล้นหลามในซีซันแรก ด้วยความแฟนตาซีลุ้นระทึกอันประสมประสานความย้อนยุคที่เป็นส่วนประกอบของเรื่องได้อย่างเด่น ซึ่งในซีซัน 2 ผู้ชมยังจะได้เจอกับ 2 ดารามากมายความสามารถอย่าง อีมูแซง แล้วก็ กางฮยอนซอง ที่จะมาร่วมถ่ายทอดเรื่องราวเป็นอีก 2 นักแสดงหลักในเรื่องเพื่อเพิ่มความเข้มข้นให้กับซีรีส์ประเด็นนี้ด้วยเช่นเดียวกัน
มนุษย์เป็นสิ่งไม่สมบูรณ์ ภายหลัง ‘โรงหมอทดลองซอง’ สถานที่ทดสอบมนุษย์ในชั้นที่อยู่ใต้ดินโดนระเบิดไปข้างหลังตอนสงครามโลกครั้งที่ 2 เวลาผ่านไป 70 กว่าปีการทดสอบมนุษย์ก็ยังคงก้าวเดินต่อไปในชื่อ ‘จอนซึงการปรุงยา’
พวกเขายังสร้าง ‘ท้องนาจิน’ หรือเชื้อไวรัสที่ประชาสัมพันธ์ว่าจะรอเพิ่มความสามารถของผู้คน แล้วก็ทำให้มนุษย์เป็นมนุษย์อย่างสมบูรณ์
ไม่ว่าจะสมัยกยองซอง หรือ สมัย 2024 ที่เทคโนโลยีปรับปรุงไปอย่างเร็ว มนุษย์ก็ยังคงมองหาเศษเสี้ยวของความสมบูรณ์แบบ เพื่อชีวิตของเขาถูกเห็นด้วย และไม่เป็นมนุษย์ล่องหนในสายตาของคนไหนกันแน่
นี่ก็เลยเป็นเหตุผลที่ทำให้ ‘การทดสอบมนุษย์’ ยังคงอยู่ถัดไปได้ หากแม้เวลาจะผ่านไปหลายสิบปีและก็ตาม
ยายที่เป็นตัวคงที่แทนของท่านหญิงมาเอดะ หญิงหน้างามที่อยู่เบื้องหน้าเบื้องหลังของการทดสอบมนุษย์เองก็พูดว่า มนุษย์เป็นสิ่งไม่สมบูรณ์ ด้วยเหตุดังกล่าวงานของพวกเขาก็เลยมีคุณค่า
“สิ่งที่กล่าวว่าพวกเราเป็นคนแบบไหนเป็นนิสัยจิตใจหรือความรู้ความเข้าใจ มนุษย์ส่วนมากเป็นสิ่งไม่สมบูรณ์ที่ตั้งอยู่บนเส้นแบ่งระหว่างสองขั้ว มนุษย์บางทีอาจดูอย่างกับว่ากำลังหาคำตอบของชีวิตอย่างไม่สิ้นสุด แม้กระนั้นเรื่องจริงแล้วมนุษย์เพียงแต่คลายความกังวลใจข้างในจิตใจตนเองอย่างไม่สิ้นสุดแค่นั้น”
หัวข้อหลักในซีรีส์ Gyeongseong Creature เป็นเรื่องของการต่อสู้ ซึ่งสะท้อนออกมาในหลายแบบอย่าง ที่แน่ชัดที่สุดเป็นการสู้กับอสูรกาย หรือตรงตามชื่อก็คือ สัตว์สยดสยองกยองซอง ซึ่งเป็นสิ่งมีชีวิตแปลกอันมีสาเหตุจากความมักมากของคนเราในเมืองกยองซองนั่นเอง
ระหว่างเส้นเรื่องหลักของการต่อสู้
หนีตายจากตัวประหลาด Gyeongseong Creature ยังสะท้อนเรื่องการต่อสู้ในอีกหลายมิติ ไม่ว่าจะเป็นการต่อสู้ด้านในจิตใจของผู้แสดงสำคัญๆที่แยกออกไปในอีกหลายระดับสถานะด้านสังคม ตั้งแต่นักโทษการเมืองที่อยู่ในตารางไม่เคยมองเห็นเดือนมองเห็นพระอาทิตย์, ผู้ต้องขังที่มีค่าเพียงแค่เชลยสงครามสำหรับประเทศญี่ปุ่น, คนโชชอนที่เลือกเข้าข้างประเทศญี่ปุ่นเพื่อเอาชีวิตรอด หรือประเทศญี่ปุ่นเองที่ก็ยังมีการต่อสู้ในเชิงอำนาจตามตำแหน่งงานและก็สถานะทางด้านสังคม
สำหรับผู้ชมทางบ้านบางทีอาจเลือกดูด้วยความเบิกบานใจล้วนๆก็ได้ กับการต่อสู้ของจางแทซัง เจ้าของห้างโรงจำนำ ที่รับบทบาทโดย พัคซอจุน รวมทั้ง แชอ๊ก นักสืบหาสาวที่รับบทบาทโดย ฮันโซฮี หรือจะเลือกดูมิติที่ลึกไปกว่านั้น ก็ได้ความรู้ความเข้าใจในเชิงภาพรวมสังคมกึ่งกลางการสู้รบ ที่หากแม้เดี๋ยวนี้ไม่มีการทำศึกเกิดขึ้น แม้กระนั้นมันกลายเป็นการศึกเงียบที่พวกเราต่างปรารถนาอำนาจเพื่อขึ้นยิ่งใหญ่ ไม่ต้องกลายเป็นข้าทาสคนใดกันแน่ทั้งหมด
ตัวโครงเรื่องมีความน่าดึงดูดใจและก็เข้มข้นตรงที่เกิดเรื่องการตามหาคนหายและก็มีตัวประหลาดเกิดขึ้นข้างในเมือง ซึ่งมองไปก็ลุ้นเอาใจช่วยผู้แสดงให้ตามหาคนให้พบรวมทั้งรอดตายไปด้วย ทั้งตัวเรื่องยังเกิดขึ้นในยุคที่จักรวรรดิประเทศญี่ปุ่นดูแลโชชอน
ทำให้พวกเรามองเห็นความโหดของผู้ที่ทำกับคนร่วมกันเอง ทั้งยังการกดขี่กดขี่ การทำร้าย การดูถูกดูแคลน รวมทั้งการจับคนมาทดสอบอย่างเหี้ยมโหดอำมหิตกระทั่งคนเปลี่ยนเป็นตัวประหลาด ซึ่งพวกเราดูแล้วก็รู้สึกเศร้าสร้อย น่าชิงชัง เห็นอกเห็นใจ เกลียดชังไปกับผู้แสดงข้างในเรื่องด้วย มองเป็นการต่อสู้ระหว่างคนกับคนร่วมกันเองมากยิ่งกว่าคนกับตัวประหลาด ซึ่งค่อนข้างจะไม่เหมือนกับที่คิดไว้ รวมทั้งมีความรู้สึกว่าคณะทำงานของซีรีส์ประเด็นนี้เสียดสีจักรวรรดิประเทศญี่ปุ่นได้เจ็บแสบมากมาย
เมื่อเรื่องราวใน Gyeongseong Creature ดำเนินไป เรื่องราวจะเจาะลึกลงไปในตำนานที่กล่าวขานเกี่ยวกับสิ่งมีชีวิตและก็แหล่งกำเนิดของพวกมัน ทำให้มีบริบทรวมทั้งเรื่องราวเบื้องหน้าเบื้องหลังของความสยองขวัญอันน่าขนลุกที่รุกรามเมืองนี้มากยิ่งขึ้น ความลึกที่เพิ่มเข้ามานี้ช่วยให้ส่วนประกอบเหนือธรรมชาติมีความแน่ชัดขึ้น ทำให้สิ่งมีชีวิตกลุ่มนี้มองน่าสยองขึ้น และก็ทำให้หน้าที่ของพวกมันในเรื่องราวโดยรวมมองมีเหตุมีผลเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
ซีซันลำดับที่สองยังเน้นย้ำไปที่ผลพวงทางด้านจิตวิทยาที่เหตุต่างๆ
มีต่อนักแสดงเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ความเจ็บจากการต่อสู้กับสิ่งมีชีวิตในฝันร้ายกลุ่มนี้ รวมกับการต่อสู้ดิ้นรนอย่างสม่ำเสมอสำหรับการดำเนินชีวิตภายใต้การปกครองที่ข่มขี่ ทำให้ผู้แสดงนำมีความสลับซับซ้อนทางอารมณ์มากยิ่งขึ้น ผู้แสดงหลักมีการเติบโตอย่างเป็นจริงเป็นจัง โดยเฉพาะเมื่อพวกเขาถูกบังคับให้เจอหน้ากับไม่เฉพาะแต่ภัยรุกรามข้างนอกเพียงแค่นั้น แม้กระนั้นยังรวมทั้งภูติผีด้านในที่เกิดขึ้นมาจากความหวาดกลัว ความรู้สึกตัวว่าตัวเองผิด รวมทั้งการสูญเสีย การพัฒนาทางอารมณ์นี้ทำให้เรื่องราวเข้มข้นขึ้น ทำให้ช่วงที่ชัยและก็เรื่องโศกเศร้านั้นน่าสะเทือนใจเพิ่มมากขึ้น
การถ่ายรูปยังคงสร้างความซาบซึ้งด้วยภาพที่สวยและก็เชื้อเชิญสะเทือนขวัญของเมืองที่ถูกการทำศึกเผาผลาญซึ่งวางตัดกับภาพที่น่าสะพรึงกลัวของสิ่งมีชีวิต การใช้แสงสว่างแล้วก็เงาช่วยเสริมความตื่นเต้นแล้วก็บรรยากาศได้อย่างดีเยี่ยม ไม่ว่าจะเป็นการประจันหน้าในซอยซอยที่เคร่งเคลียดหรือการต่อสู้ที่ท้อใจในซากของตึก การเล่าเรื่องด้วยภาพยังคงเป็นข้อดีที่สำคัญของซีรีส์นี้
ส่วนประกอบที่สะดุดตาอย่างหนึ่งของ Gyeongseong Creature เป็นการสำรวจการต้านแล้วก็การท้าเมื่อพบเจอกับปัญหาล้นหลาม การต่อสู้กับสิ่งมีชีวิตสะท้อนการต่อสู้เพื่อความมีชีวิตรอดแล้วก็อิสระภายใต้การยึดครอบครองที่กว้างขึ้น ส่งผลให้เกิดความคล้ายระหว่างความสยองขวัญเหนือธรรมชาติแล้วก็ความสยองขวัญของการสู้รบ เลเยอร์ของธีมนี้เพิ่มความลึกให้กับการเดินเรื่อง ทำให้เกิดความรู้สึกทั้งที่ยังไม่ตายส่วนตัวรวมทั้งสากล
นักแสดงรองก็เด่นในซีซันนี้เหมือนกัน
โดยนักแสดงหลักหลายตัวได้รับส่วนโค้งของเรื่องราวที่ขยายออกไปซึ่งช่วยเสริมพล็อตเรื่องโดยรวม เรื่องราวรองกลุ่มนี้เพิ่มความเข้มข้นให้กับโลกของ Gyeongseong Creature ถึงแม้บางโอกาสอาจก่อให้จังหวะของเรื่องราวหลักช้าลง แต่ เรื่องราวย่อยที่ย้ำไปที่นักแสดงกลุ่มนี้มีส่วนเกื้อหนุนธีมที่กว้างขึ้นของรายการเกี่ยวกับชุมชน ความจงรักภักดี แล้วก็การเสียสละ
หากว่าซีซันนี้จะมีคุณลักษณะเด่นหลายประการ แม้กระนั้นบรรดานักวิพากษ์วิจารณ์บางบุคคลก็แสดงให้เห็นว่าบางช่วงก็มองคาดคะเนได้ โดยยิ่งไปกว่านั้นเมื่อเทียบกับความสดใหม่ของซีซันแรก การขยายเรื่องราวเกี่ยวกับอสูรกายนั้นแม้ว่าจะน่าดึงดูด แม้กระนั้นบางโอกาสก็ทำให้ผู้ชมรู้สึกรู้จักดีเสมือนในละครเหนือธรรมชาติเรื่องอื่นๆแม้กระนั้น การแสดงที่เข้มแข็งแล้วก็การเขียนบทที่ปลุกอารมณ์ช่วยเอาชนะข้อผิดพลาดนิดๆหน่อยๆกลุ่มนี้ได้ ทำให้ผู้ชมพึงพอใจตลอดทั้งเรื่อง
เมื่อหมดซีซัน Gyeongseong Creature พรีเซนเทชั่นการประสมประสานระหว่างการคลี่คลายปัญหาแล้วก็การหมดเรื่องอย่างถูกใจ ช่วยปูทางไปสู่ซีซันต่อๆไปในระหว่างที่จบสิ้นเรื่องราวสำคัญ แฟนคลับของซีซันแรกจะพบว่ามีอะไรให้เพลิดเพลินเจริญใจเยอะมากในภาคต่อนี้ เพราะว่ามันทำให้โลก ผู้แสดง และก็ความสยองขวัญมีความลึกล้ำเพิ่มขึ้น ซึ่งทำให้ซีซันแรกน่าสนใจมากมาย แม้ว่าจะไม่อาจจะหลุดพ้นจากเงาของซีซันก่อนได้ทั้งผอง แต่ว่าก็สามารถสร้างฐานรากและก็พรีเซ็นท์เรื่องราวต่อที่ตื่นเต้นและก็สะเทือนอารมณ์ได้เสร็จ
เบื้องหลังในซีรีส์ Gyeongseong Creature อยู่ในฤดูใบไม้ผลิปี 1945 ซึ่งเป็นตอนในช่วงเวลาที่โชชอนหรือประเทศเกาหลีเวลานี้กลายเป็นดินแดนส่วนหนึ่งส่วนใดของประเทศญี่ปุ่น ทั้งจำเป็นต้องอยู่ใต้การปกครองของประเทศญี่ปุ่น
ประเทศเกาหลีในช่วงเวลานั้นก็เลยมีคนญี่ปุ่นเข้ามาเป็นเยอะมาก ทั้งยังทหาร ตำรวจ พ่อค้า นักธุรกิจ รวมทั้งเหล่ามาเฟีย รวมทั้งนักแสวงโชค ภาวะชีวิตความเป็นอยู่ของคนประเทศเกาหลีก็เลยเต็มไปด้วยความอึดอัด บีบคั้น คอยวันที่จะได้รับเสรีภาพกลับมาอีกที
เบื้องหลังของซีรีส์ก็เลยออกจะตรงตามขณะในประวัติศาสตร์ที่มีการจับกลุ่มพลังเงียบสำหรับการเรียกร้องอิสระให้ประเทศเกาหลี การต่อสู้ในเชิงเครื่องหมายที่นักแสดงไม่ยินยอมบอกภาษาประเทศญี่ปุ่น ทั้งๆที่มีการกำหนดให้เป็นภาษาหลัก หรือแม้เกิดเหตุร้ายที่ชาวญี่ปุ่นเป็นข้างปฏิบัติต่อคนประเทศเกาหลี ผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ก็บางทีอาจเฉยเมย เนื่องจากว่าสำหรับพวกเขา ประเทศเกาหลีก็เป็นเพียงแค่แผ่นดินภายใต้คำสั่งแค่นั้น